"งานแต่งของเราหรือของใคร"

แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เราคิดว่า จขกท ควรอธิบายกับเเม่ว่า เงินเจ็ดหลักนั้น ถ้าเเม่ จขกท อยากได้จริงๆ เมื่อเรียกร้องเเล้ว ก็ควรยกให้คู่บ่าวสาวเป็น "เงินขวัญถุง"ร้องไห้เรียกเเบบนี้ไหม?) ให้เอาไว้ตั้งเนื้อตั้งตัวกันต่อไป เป็นการเเสดงถึงความพยายาม เเละศักยภาพของลูกเขย ที่จะเลี้ยงดูครอบครัว สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับวัฒนธรรมเรียกสินสอดด้วย  เพราะทุกวันนี้เงินทองหายาก เเละการใช้ชีวิตของคนก็ซับซ้อนมากกว่า คนในเจเนอเรชั่นเก่า  ถ้าเเม่เรียกไป เเล้วเก็บไว้เพราะอยากได้ คิดว่าควรเอา ก็ขอให้เห็นเเก่ลูกสาวด้วย  เพราะจะลูกชายหรือลูกสาว ก็ต้องใช้น้ำนมเลี้ยงมาเหมือนกันทั้งสิ้น
  
            ทั้งนี้ทั้งนั้น เราออกความคิดเห็นจากตัวเราเองด้วย ที่ยังคงสนับสนุนระบบสินสอด จะว่าไงดี...พูดไปก็กลัวมาก - - ว่าจะโดนหนุ่มๆรุมสกรัม เราไม่ได้คิดว่าการขายลูกกินเป็นเรื่องดี เเต่ในขณะเดียวกัน มันคือความต้องการความสบายใจของคนเป็นพ่อเป็นเเม่ อยากให้ลูกสบาย เเละยังคงยึดติดกับวิถีเก่าๆ โดยลืมไปว่า ปัจจุบัน การเเต่งงานนั้น ไม่ใช่การมีลูกเยอะๆ เพื่อจะได้มีหัวเรี่ยวหัวเเรงในการทำงานอีกเเล้ว  เเต่มันคือการสืบต่อวงศ์ตระกูล เเละต้องอาศัยปัจจัยต่างๆมากมายมากกว่าเเต่ก่อน  การเรียกสินสอดสูงๆ จึงเป็นเรื่องที่เกินความจำเป็น เเละอาจทำให้ครอบครัวลูกลำบากมากขึ้นในอนาคต  เเต่ถ้าสามี จขกท ร่ำรวยประดุจเจ้าสัวมีเงินเข้าร้อยล้านเหนาะๆเสมอ ก็... ทำใจเถอะค่ะ เเต่ลองเปรยๆดู
     ลองคุยกับเเม่ประมานนี้ดูค่ะ ถ้าเราเขียนวนไปวนมาก็ขอโทษด้วย เขียนๆลบๆ กลัวดราม่า เพราะเรื่องสินสอดนี่ดราม่ามาเเรงมากๆถ้าเขียนกระทบใจใครเข้า


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อย่าด่าเราเลยได้โปรด
ความคิดเห็นที่ 11
เราไม่ได้อยากขวางโลกนะคะ
คือเวลาได้ยินพ่อแม่ฝั่ง ผู้หญิงเรียกสินสอดแพง ๆ
โดยยกคำว่า "ค่าน้ำนม" มาอ้าง
ถึงแม้ว่าฝ่ายชายจะรวยก็ตาม

คือ พอได้ยินคำนี้ทีไร
ก็อดนึกไม่ได้ว่า

แล้วผู้ชายมันโตมาเพราะน้ำเปล่าหรือไง


คุณ จขกท  ลองไปบอกแม่ได้มั๊ยคะ ว่ามีงบแค่นี้
จะจัดแค่นี้ มากกว่านี้ไม่เอา
แม่ไม่ยอมก็ไม่แต่ง  แข็งข้อไปเลย
ดีกว่างบบานปลายแล้วต้องมาเป็นหนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่